NFTC: โมเดลการพัฒนาเกษตรอย่างยั่งยืน จาก อบต.จอเบาะ สู่ชุมชน เพื่อชุมชน
1. บทนำ (Introduction)
ภาคเกษตรกรรมถือเป็นรากฐานสำคัญของเศรษฐกิจและสังคมไทย
โดยเฉพาะในระดับชุมชน
ที่ประชาชนส่วนใหญ่ยังคงพึ่งพาการเกษตรเป็นหลักในการดำรงชีวิต อย่างไรก็ตาม
ความท้าทายใหม่ ๆ ทั้งด้านทรัพยากรธรรมชาติ ความผันผวนของตลาด
และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ทำให้การทำเกษตรในปัจจุบันไม่สามารถพึ่งพาแนวทางแบบเดิมได้อีกต่อไป
บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อถ่ายทอดแนวคิดและรูปธรรมของ
NFTC
(Natural Farming Technology Clinic) ซึ่งเป็นรูปแบบการพัฒนาเกษตรอย่างยั่งยืนที่เน้นการลงมือทำจริงโดยชุมชน
ใช้เทคโนโลยีพื้นบ้านและภูมิปัญญาท้องถิ่น เพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงที่แท้จริง
ทั้งในแง่เศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม
2. ปัญหาและความท้าทายในภาคเกษตร
หนึ่งในปัญหาหลักของภาคเกษตรคือการเสื่อมโทรมของทรัพยากรธรรมชาติ
ดินขาดอินทรียวัตถุ น้ำปนเปื้อนสารเคมี
และคุณภาพอากาศที่ลดลงจากการเผาเศษวัสดุทางการเกษตร
รวมถึงผลกระทบจากการทำเกษตรเชิงเดี่ยวและการใช้สารเคมีอย่างต่อเนื่อง
ส่งผลต่อสุขภาพของเกษตรกร สิ่งแวดล้อม และความมั่นคงทางอาหาร
นอกจากนี้
ความเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ เช่น ภัยแล้ง น้ำท่วม และฝนตกไม่ตามฤดูกาล
ยังทำให้ผลผลิตผันผวนและสร้างความไม่แน่นอนต่อรายได้ของครัวเรือนเกษตร
3. แนวคิดและหลักการของการพัฒนาเกษตรอย่างยั่งยืน
“การพัฒนาอย่างยั่งยืน” ในภาคเกษตร
หมายถึงการพัฒนาที่ไม่ทำลายทรัพยากรธรรมชาติ
สามารถส่งต่อศักยภาพในการผลิตให้คนรุ่นถัดไป
และสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้แก่เกษตรกรและชุมชน โดยคำนึงถึง 3 มิติหลักคือ:
หลักการเหล่านี้เชื่อมโยงโดยตรงกับ
เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals - SDGs) ขององค์การสหประชาชาติ
เช่น SDG 1 (ขจัดความยากจน), SDG 2 (ขจัดความหิวโหย),
SDG 13 (การรับมือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ)
4. ตัวอย่างแนวทางหรือเทคโนโลยีที่สนับสนุนความยั่งยืน
NFTC
ใช้แนวทางที่เน้น “เทคโนโลยีชาวบ้าน” และ “กสิกรรมธรรมชาติ”
โดยมีจุดเด่นที่ไม่พึ่งพาสารเคมี แต่ใช้ทรัพยากรในชุมชน เช่น เศษพืช น้ำหมักชีวภาพ
ปุ๋ยหมัก และจุลินทรีย์ EM
แนวทางหลัก
ได้แก่:
5. กรณีศึกษา/พื้นที่ต้นแบบ
NFTC
เริ่มต้นจากการฟื้นฟูพื้นที่เสื่อมโทรมในชุมชน โดยเน้นให้
“คนในพื้นที่” เป็นเจ้าของการเปลี่ยนแปลง ผ่านการเรียนรู้แบบ “ใช้กระบวนการเรียนรู้แบบลงมือปฏิบัติจริง
(Learning by Doing) ควบคู่กับการประยุกต์ใช้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่ชุมชนเข้าถึงได้ง่าย
เพื่อทดลอง แก้ไข และพัฒนาจากปัญหาที่เกิดขึ้นจริงในพื้นที่” พร้อมการสนับสนุนจากหน่วยงานต่างๆที่ทำงานร่วมกันในรูปแบบภาคีเครือข่าย
ผลลัพธ์ที่เห็นได้ชัด ได้แก่:
6. ข้อเสนอแนะ/แนวทางต่อยอด
เพื่อให้แนวคิด
NFTC
ขยายผลได้กว้างขึ้น
ควรมีการส่งเสริมในระดับนโยบายและโครงสร้างดังนี้:
7. สรุป (Conclusion)
NFTC
คือแนวทางการพัฒนาเกษตรที่ไม่เพียงแต่สร้างความยั่งยืนในเชิงเศรษฐกิจ
หากยังฟื้นฟูจิตวิญญาณของชุมชนและสิ่งแวดล้อมได้อย่างแท้จริง
โดยอาศัยการเรียนรู้ร่วมกัน การลงมือทำ และการพึ่งพาทรัพยากรในท้องถิ่น
ในยุคที่ความเปราะบางของระบบอาหารและสภาพภูมิอากาศเป็นปัญหาใหญ่
การมีโมเดลอย่าง NFTC
จึงไม่ใช่เพียงทางเลือก
แต่คือความหวังและแนวทางหลักของอนาคตภาคเกษตรไทยที่ “พึ่งตนเองได้ ยั่งยืนได้
และไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง”